พระวิหาร เป็นศูนย์รวมใจของธรรมที่พระองค์ทรงพาให้ดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ภายในพระวิหารจะตกแต่งด้วยความวิจิตรปริศนาธรรม ปลุกชีวิตที่หลับไหลให้ตื่นขึ้น เรียกวิญญาณที่หลับไหลให้สว่าง เป็นแนวทางจนถึงมรณานุสติ พระวิหารมีประตูทางเข้า 3 ด้าน แต่ละด้านเป็นประตูบานคู่
คู่ที่ 1 เป็นภาพของเทพทวารบาล บานละ 1 องค์ รวมเป็น 2 องค์ เพื่อปกปักรักษา ให้มฤตยูแห่งความฉิบหายและโทษภัยได้หลุดหนีหายจากผู้ทีจะเข้าไป เกิดความเคารพเลื่อมใส เพิ่มพูนกำลังของความตั้งมั่นในพระพุทธศาสนาต่อไป
เทพที่ติดอยู่บนบานประตูไม้สักกว้าง 1 เมตร สูง 3.5 เมตร รูปเทพดังกล่าวงามสง่า นุ่มนวล มีเมตตาธรรมอันลึกซึ้ง งดงามสมดังปรารถนาของผู้ร่วมสร้าง และผู้อุทิศทีเดียวรูปองค์เทพทุกบานหล่อด้วยทองแดง เทพที่แสดงความวิจิตรพิสดาร ออกแบบและควบคุมการปั้นโดยจิตรกรเหรียญทองบัวหลวง ผู้มีประกายของความอัจฉริยะในทัศน์ภาพแห่งศิลปินที่รุ่งโรจน์ในอนาคต
ได้รับศรัทธาจาก คุณประเสริฐ ตั้งตรงศักดิ์
คู่ที่ 2 เทพแห่งดินและเทพแห่งน้ำ พระองค์จะทรง ประทานความหนักแน่นในการเจริญเมตตาตน และมีความเพียรอดทนที่จะเจริญเมตตาผู้อื่น ให้เกิดสติปัญญาในเมตตาธรรมนั้นๆ จนถึงที่สุดแห่งทุกข์
ได้รับศรัทธาจาก คุณวโรดม กอนุประพันธ์
คู่ที่ 3 เทพแห่งลมและเทพแห่งไฟ เป็นเทพแห่งการมุทิตา
ประสิทธิ์ประสาทสติปัญญา ธรรมที่มีอยู่ในตนจะได้เป็นปิยวาจา แพร่สะพัดขจรขจายไปทั่วหล้า ทำให้ผู้ระหกระเหินหลงทาง ได้รับผล ได้รับความสว่าง เบิกบานอยู่ตลอดทั้งกลางวันกลางคืน
ได้รับศรัทธาจาก บริษัท เซ็นจูรีโฮเต็ล จำกัด
โดยคุณบุญญงค์-คุณเกศรา อาคมสุนทร และครอบครัว
Comments on: "พระวิหารมหาปรินิพพานธรรม" (2)
ศิลปะไทยเนี่ยงามแท้ แล้วก็มีความหมายด้วยเนอะ
โอ้วโหไซต์ใหญ่มากเลยค่า